ในจักรวาลนี้ปกครองด้วยเทพเจ้าตรีมูรติอันเป็นเทพเจ้าสูงสุด ซึ่งพระองค์ก็ได้แบ่งภาคเป็น 3 องค์ เพื่อทำหน้าที่ต่างกันสามประการ คือ พระพรหม พระวิษณุ (พระนารายณ์) และพระศิวะ (พระอิศวร)
พระพิฆเนศ หรือ พระพิฆเนศวร ทรงเป็นบุตรของพระศิวะผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในสามของมหาเทพสูงสุดแห่งจักรวาลและมเหสีนามว่าพระแม่อุมาเทวี เทวีแห่งความเมตตาพระองค์มีรูปลักษณ์ที่ต่างจากเทพอื่นๆ มีเศียรเป็นช้าง ลำตัวเป็นคน มีหลายพระหัตถ์ ในมือถือสิ่งของมงคลต่างชนิด
พระองค์ทรงเป็นเทพที่ทรงอิทธิฤทธิ์มากจนแทบจะมีเทพใดเสมอเหมือนในสามโลก และด้วยความเฉลียวฉลาด กล้าหาญ และกตัญญูขององค์พระพิฆเนศ พระองค์จึงเป็นที่รักยิ่งของทั้งพระศิวะและพระแม่อุมาเทวี จนพระองค์กลายเป็นสัญลักษณ์ของความกตัญญูของบุตรที่มีต่อมารดา
ยิ่งไปกว่านั้น พระองค์ทรงได้รับพรจากองค์วิษณุ ให้ถือพระพิฆเนศเป็นองค์ปฐมเทพในการบูชา หรือเป็นเทพที่ต้องได้รับการกราบไหว้บูชาเป็นองค์แรกก่อนที่จะไปกราบไหว้บูชาเทพองค์อืนๆในเทวาลัย มิฉะนั้นการบูชานั้นจะไม่สัมฤทธิ์ผลอย่างแท้จริง
ศาสนาพราหมณ์เกิดในประเทศอินเดียประมาณกว่า 1,000 ปีก่อนพุทธศาสนา ทั้งยังมีบันทึกว่าพระพุทธเจ้าครั้งยังเป็นพระโพธิสัตว์ก็ได้เรียนรู้คำสอนของศาสนาพราหมณ์จากอาจารย์อาฬาระดาบสและอุททกะดาบสจนจบไตรเพท ศาสนาพุทธจึงมีความผูกพันธ์กับศาสนาพราหมณ์อย่างลึกซึ่งแต่กาลก่อนมา
ศาสนาพราหมณ์มีความเชื่อว่าในจักรวาลนี้ ถูกปกครองด้วยเทพเจ้าตรีมูรติอันเป็นเทพเจ้าสูงสุด ซึ่งพระองค์ก็ได้แบ่งภาคเป็นมหาเทพ 3 องค์ เพื่อทำหน้าที่ต่างกันสามประการ คือ...
พระศิวะทรงมีพระมเหสีนามว่าพระแม่อุมาเทวี (หรือ พระนางปราวดี) ทั้งสองพระองค์ทรงสถิตอยู่ในวิมานใหญ่บนเขาไกรลาศ
กระทั่งวันหนึ่ง พระศิวะต้องออกเดินทางไปบำเพ็ญสมาธิเป็นระยะเวลานาน พระแม่อุมาเทวีเลยเกิดความเหงาเนื่องจากต้องอยู่เพียงลำพัง เลยคิดอยากจะมีพระโอรสสักคนไว้เป็นเพื่อนและคอยดูแลพระนางยามที่พระศิวะไม่อยู่
จึงปั้นดินเหนียวขึ้นเป็นรูปคน แล้วใช้พระเวทเสกให้กลายเป็นเด็กหนุ่มรูปงาม แล้วทรง ประทานพระนามให้ว่า “พระพิฆเนศ” และทรงมอบหน้าที่สำคัญให้เป็นผู้ดูแลประตูทางเข้าพระตำหนัก ป้องกันไม่ให้คนภายนอกไปรบกวนพระนาง
พระพิฆเนศ ทรง ได้รับการดูแลและสอนสั่งจากพระแม่อุมาเทวีอย่างใกล้ชิด จึงมีความเฉลียวฉลาด รอบรู้ในทุกด้าน รวมทั้งมีความองอาจ กล้าหาญ และมีอิทธิฤทธิ์มากจนจะหาเทพใดเสมอเหมือนได้ในสามโลก มีความอ่อนน้อมและกตัญญูต่อองค์พระมารดา พระองค์จึงเป็นที่รักยิ่งของพระแม่อุมาเทวี
แต่ครั้นพระศิวะเดินทางกลับจากการบำเพ็ญสมาธิ เมื่อมาถึงหน้าพระตำหนัก พระพิฆเนศซึ่งไม่รู้ว่าพระศิวะเป็นใคร จึงประกาศกร้าวไม่ให้พระศิวะล่วงล้ำเข้าไปในพระตำหนัก เพื่อมิให้เป็นการรบกวนพระแม่อุมาเทวีที่กำลังสรงน้ำอยู่ ส่วนพระศิวะซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพระพิฆเนศเป็นพระโอรสของพระนางอุมาเทวี จึงตวาดกลับให้เด็กหนุ่มจงหลีกไปเสีย แต่พระพิฆเนศก็ยังยืนยันที่จะไม่ให้พระศิวะเข้าไป เพราะตนต้องรักษาหน้าที่ของพระองค์ที่พระมารดามอบหมายให้ปกป้องตำหนักไม่ให้ผู้ใดเข้าไปรบกวนพระนาง พระศิวะเมื่อถูกขัดใจ จึงทรงพิโรธ จึงเกิดการต่อสู้กันอย่างรุนแรง สั่นสะเทือนถึงสามโลก แม้เทพเทวดาองค์อื่นก็ไม่กล้าเข้ามาห้ามศึก แต่ในที่สุด พระพิฆเนศก็ได้พ่ายแพ้ต่อองค์ศิวะ และพระเศียรก็ถูกตรีศูลของพระศิวะตัดขาดหายไป
เมื่อพระนางอุมาเทวีได้ยินเสียงการต่อสู้ที่รุนแรง จึงรีบเสด็จออกมาดู แต่ไม่ทันกาลเสียแล้ว พระนางแทบสิ้นสติเมื่อทอดพระเนตรเห็นร่างของพระโอรสนอนทอดกายอยู่บนพื้นอย่างไร้พระเศียร
พระนางจึงตัดพ้อต่อว่าทำไมพระศิวะถึงโหดร้ายจนประหารพระโอรสองค์น้อยของพระองค์ได้ลงคอ ทั้งๆที่พระโอรสเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่มีความผิดอันใดเลย เพียงแต่ปฎิบัติตามคำบัญชาของพระมารดาให้เฝ้าประตูพระตำหนัก
องค์พระศิวะจึงรู้สึกเสียพระทัยเมื่อรู้ภายหลังว่าเด็กหนุ่มเป็นพระโอรสของพระองค์เช่นกัน จึงรับปากพระเทวีว่าจะชุบชีวิตให้พระโอรส แต่เนื่องจากพระเศียรหายไป และใกล้จะถึงเวลาเช้าแล้ว การชุบชีวิตต้องกระทำก่อนแสงพระอาทิตย์ขึ้น พระศิวะจึงมีพระบัญชาให้เทพผู้ติดตามรีบเร่งเดินทางไปทางทิศเหนือ เมื่อเจอสิ่งมีชีวิตใดเป็นชีวิตแรก ก็ให้รีบตัดศรีษะมา
ไม่นานนัก เทพผู้ติดตามก็ได้กลับมาพร้อมกับศรีษะของช้างน้อย พระศิวะจึงนำมาต่อกับร่างของพระโอรสแล้วชุบชีวิตให้ใหม่
พระโอรสจึงฟื้นชีวิตมาอีกครั้ง พระโอรสจึงขอประทานอภัยพระบิดาในความไม่รู้ของตน และคอยถวายงานดูแลพระศิวะและพระแม่อุมาเทวีด้วยความกตัญญูเสมอมา จนเป็นที่รักยิ่งของทั้งสองพระองค์
1. วินายกายะ - พระผู้ให้การช่วยเหลือปกป้องต่อสวรรค์
2. วิฆณราชายะ - พระผู้ขจัดอุปสรรคทั้งหลาย
3. โศริปุปุตรายะ - พระโอรศแห่งพระแม่อุมา – โครี
4. พระคเณศวรายะ - เทพเจ้าแห่งคณะบริวาร
5. พระสกันทานุชายะ - พระเชษฐาพระสกันทกุมาร ,สุพรหมมันยะ
6. พระอวัยยาน - พระผู้ซึ่งไร้รูปร่าง
7. พระพูตายะ - พระผู้มีความรู้สึกอันบริสุทธิ์
8. พระทักศาธยักศายะ - เทพเจ้าแห่งพระปชาบดีแลเหล่าบรรพบุรุษ
9. พระทวิชปริยายะ - พระผู้เป็นที่รักซึ่งถือกำเนิดสองครั้ง
10. พระอัคนิครวัจหิเท - พระผู้ทำลายความอวดหยิ่งแห่งพระอัคนีเทพ
11. พระอินทรศรีปรทายะ - พระผู้คุ้มครองรักษาทระพย์สมบัติของพระอินทร์
12. พระนิพลปรทายะ - พระผู้ประทานพรที่ดีเลิศ
13. พระสวะ สิทธิปรายกกายะ- พระผู้ประทานพลังอำนาจสูงสุดทั้งหมด
14. พระศรวัฒนยายะ - พระโอรสแห่งพระศิวะเทพ
15. พระศรวริปริยายะ - พระโอรสแห่งพระแม่ศักดิอุมา
16. พระสรวัฒมกายะ - พระผู้ได้รับความเคารพยิ่งใหญ่ทั้งหมด
17. พระศรีษติกธเตร - พระผู้สร้างจักรวาล
18. พระเววานิการจิตายะ - พระผู้ได้รับการกราบไหว้บูชาจากเทวะทั้งหมด
19. พระศิวายะ - พระผู้เป็นองศ์พระศิวะเทพ
20. พระศุธิปริยายะ - พระผู้ประทานซึ่งความรู้ ความฉลาดแก่สาวก
21. พระศานตายะ - พระผู้ประทานซึ่งความสงบสุข
22. พระพรหมจาริเน - พระผู้ทรงถือเพศพรต
23. พระคชานายะ - พระผู้มีเศียรเป็นช้าง
24. พระทไวมาตุรายะ - พระผู้มีมารดา 2 พระองค์
25. พระมุนิสตุคยายะ - พระผู้ทรงได้รับการกราบไหว้จากเหล่าฤษี
26. พระภัคตวิฆนวินาศิเน - พระผู้ทำลายความทุกข์ร้อนของสาวกของพระองค์
27. พระเอกทันตายะ - พระผู้ทรงเปี่ยมด้วยพลังอำนาจ
28. พระจตุรพาหเว - พระผู้มี 4 กร
29. พระศักดิสัมยุตายะ - พระผู้ทรงเปี่ยมด้วยพลังอำนาจ
30. พระจตุรายะ - พระผู้เป็นยอดปัญญา
31. พระลัมโพทรายะ - พระผู้มีพุงใหญ่โตดั่งจักวาล
32. พระศรุปกรนายะ - พระผู้มีใบหูอันใหญ่โต
33. พระเหรัมบายะ - พระผู้เป็นเทพเจ้าพระองค์แรกแห่งการกราบไหว้บูชาทั้งหมด
34. พระพรหมวิตตะมายะ - พระผู้เป็นพราหมณ์สูงสุด
35. พระลีลายะ - พระผู้ทรงมีลีลาแห่งสวรรค์
36. พระพหะปัตเย - พระผู้ทรงเป็นเทพเจ้าแห่งดวงดาวทั้งหลาย
37. พระกามิเน - พระผู้ทรงเป็นเทพเจ้าแห่งความรัก
38. พระโสมสุรยาคนิ - พระทรงมีตรีเนตรเป็นพระอาทิตย์ พระจันทร์ พระเพลิง
39. พระปาศานกุศัทรายะ - พระผู้ทรงถือบ่วงบาศก์และขอช้างเป็นอาวุธ
40. พระสิทธิ วินายัก - พระผู้ทรงอยู่เหนือคุณลักษณะทั้ง 3 ประการของธรรมชาติ
41. พระสิทธิ วินายัก - พระผู้ทรงอำนาจและให้การปกป้องโลกสวรรค์
42. พระนิรันชนายะ - พระผู้ไร้ซึ่งรูปลักษณะ
43. พระอักลัมศายะ - พระผู้ทรงเป็นอิสระจากมลทินทั้งปวง
44. พระสวยัมสิทธารจิตปทายะ- พระผู้ได้รับกากราบไหว้บูชาจากคนที่ดีเลิศทั้งหมด
45. พระพิชปุรกายะ - พระผู้ทรงเป็นรากฐานแห่งจักรวาล
46. พระอายักตายะ - พระผู้ไม่มีการเปิดเผย
47. พระวรทายะ - พระผู้ประทานพรยิ่งใหญ่ทั้งหมด
48. พระวิทยศปริย - พระผู้ประทานความรักเอ็นดูแห่งคนฉลาด
49. พระศัษวตายะ - พระผู้ทรงเป็นอมตะ
50. พระกฤติเน - พระผู้ทรงสร้างปัญญายิ่งใหญ่แล้ว
51. พระวิตภายายะ - พระผู้ปราศจากซึ่งความกลัว
52. พระคทิเน - พระผู้ทรงถือตะบองใหญ่
53. พระจักริเน - พระผู้ทรงถือจักร
54. พระอิศุจาปธรายะ - พระผู้ทรงศรแห่งความรัก
55. พระอัมโยตปลักรายะ - พระมีพระกรเหมือนดอกบัว
56. พระศริษายะ - พระเทพเจ้าแห่งทรัพย์สมบัติ
57. พระศรีปตาเย - พระผู้ทรงเป็นวิษณุเทพ
58. พระสตุติหรศิตายะ - พระผู้ทรงโปรดด้วยการกล่าวสรรเสริญ
59. พระกุลทริเภเตร - พระผู้ทรงคล้ายกับเทือกเขาอันน่าสะพรึงกลัว
60. พระชิเต - พระผู้ทรงผูกมัดที่ยิ่งใหญ่
61. พระจันทรจุทายะ - พระผู้ทรงมีพระจันทร์เสี้ยวประดับอยู่ที่หน้าผากของพระองค์
62. พระอมเรศวรายะ - พระผู้ทรงเป็นเทพเจ้าสูงสุด
63. พระนาคยัชโนปวิติเน - พระผู้ทรงมีพญานาคเป็นด้ายสายสิญจน์
64. พระสริกันตายะ - พระผู้มีพระศออันสวยงาม
65. พระรมารจิตปทายะ - พระผู้ได้รับการกราบไหว้จากพระราม
66. พระวริตเน - พระผู้ท่องสวดมนต์อันเข้มแข็ง
67. พระสตุลกันตายะ - พระผู้มีพระผู้มีศอเป็นช้าง
68. พระตรยิกรเตร - พระผู้สร้าง 3 โลก
69. พระกวะเย - เทพเจ้าแห่งบทกวีที่ยิ่งใหญ่
70. พระสามโฆศปริยายะ - พระผู้ทรงโปรดด้วยการท่องสวดพระเวททั้งหลาย
71. พระปุรุโศตมายะ - เทพเจ้าแห่งบรรพบุรุษสูงสุด
72. พระสธุตันทายะ - พระผู้มีพระโอษฐ์อันกว้างไกล
73. พระอัครคันตายะ - พระผู้เป็นใหญ่สูงสุด
74. พระครามันยะ - พระผู้ได้รับการกราบไหว้ในทุกศาสนา
75. พระคณะปายะ - พระผู้เป็นเทพเจ้าแห่งพระบริวารพระศิวะเทพ
76. พระสธิรายะ - พระผู้ทรงมีความมั่นคง
77. พระวริทธิทายะกายะ - พระผู้ทรงประทานความร่ำรวย
78. พระสุภคายะ - พระผู้ทรงมีความงามเป็นเลิศ
79. พระศุรายะ - พระผู้ทรงมีความงามเป็นเลิศ
80. พระวดิศายะ - พระประทานวาทศิลป์ที่ดีที่สุด
81. พระสิทธิทากาย - พระผู้ประทานสิทธิทั้งหมด
82. พระทุรวาพิลวะปริยายะ - พระโปรดการบูชาด้วยใบพลูและหญ้าแพรก
83. พระกานตายะ - พระทรงเป็นเทพเจ้าของคนทั้งหมด
84. พระบาปหาริเน - พระพระผู้ทรงทำลายบาปทั้งหมด
85. พระสมาหิตายะ - พระผู้ประทานซึ่งพลามัยที่ดี
86. พระกฤตาคมายะ - พระผู้ปรารถนาดีต่อทุกคน
87. พระวักรตุนทายะ - พระผู้มีพระพักตร์เป็นเส้นโค้ง
88. พระศริปรทายะ - พระผู้ประทานซึ่งสมบัติที่ยิ่งใหญ่
89. พระสมุยายะ - พระผู้ทรงมีแต่ความสงบสุข
90. พระทักตกานกษิตทานะ - พระผู้ทรงปรารถนาดีต่อสาวกของพระองค์
91. พระอัชยุตายะ - พระผู้เป็นอมตะ
92. พระไกวัลยายะ - พระผู้ประทับบนอิสรภาพ
93. พระสิทธายะ - พระผู้เป็นเทพเจ้าที่ดีสุด
94. พระสุจิทานันทะวิคราหายะ- พระผู้ทรงซึ่งความสัตย์ยิ่งใหญ่
95. พระญาณีเน - เทพเจ้าแห่งโยคะญาณ
96. พระมายายุกตายะ - พระผู้ทรงกระทำด้วยพระมายายิ่งใหญ่
97. พระทานตายะ - เทพเจ้าแห่งทานแลการทำบุญ
98. พระพรหมมัทเวศ - พระผู้ปราศจากความเกลียดชังทั้งหลาย
99. พระปรมัตจะไทตยะยทายะ- พระผู้ทรงเป็นสิ่งน่ากลัวต่อเหล่าปีศาจ
100. พระวยักตทุรัตเย - พระผู้ทรงด้วยความสัตย์
101. พระอรุตกายะ - พระผู้ทรงไร้รูปร่าง
102. พระสรวโตมุขายะ - พระผู้ทรงอยู่ทุกหนแห่ง
103. พระปราติษัทนกโรตสังคะตขลโนตสวายะ- พระผู้ทรงประกอบพิธีบวงสรวงบูชาพระศิวะและพระแม่อุมาปารวตี
104. พระสมัสตะ ขัคทาธารายะ - พระผู้ค้ำจุนจักวาลทั้งหมด
105. พระวรษัก วาหนายะ - เทพผู้มีหนูเป็นราชพาหนะ
106. พระหฤษตะ จิตตายะ - พระผู้มีความผาสุกตลอดกาล
107. พระปรสันสันนาตมเม - พระผู้ประทานพรยิ่งใหญ่
108. พระศรีวสิทธิปรทายกายะ - พระผู้ประทานอำนาจยิ่งใหญ่เหนือธรรมชาติ
เราอาจจะพบเจอพระพิฆเนศในลักษณะหลายๆปางด้วยกัน แต่จากคัมภีร์โบราณ "มัดกะลา ปูรานา" ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ได้กล่าวว่าพระพิฆเนศได้อวตารมาทั้งหมด 32 ปางด้วยกัน
ปัจจุบันมีจึงผู้ศรัทธาหลายท่าน ใช้ความหมายของแต่ละปางในการเลือกหาบูชาองค์พระพิฆเนศในรูปแบบที่ต้องการ โดยส่วนใหญ่เลือกปางที่มีความหมายเหมาะกับสายอาชีพเป็นส่วนใหญ๋
ลักษณะรูปลักษณ์เป็นเด็กน้อยในวัยเยาว์ พระวรกายเป็นสีแดงเหมือนพระอาทิตย์ยามเช้า ภูษาสีทองแห่งรุ่งอรุณ มี 4 พระกร มือถือช่อดอกไม้ ต้นออ้ย ผลไม้ 4 ชนิด คือ กล้วย, มะม่วง, ขนุน, ต้นอ้อย (ผลไม้แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์) งวงถือขนมโ มทกะที่ทรงโปรด
พรที่ให้: ประทานพรกับเด็กๆให้เจริญเติบโตแข็งแรงและเฉลียวฉลาด รวมทั้งให้พรกับผู้ที่มีบุตรยาก
เหมาะสำหรับ: บ้านที่มีเด็กเล็ก โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือผู้ที่ต้องการขอพรให้มีบุตร
บทสวด: "โอม ศรี บาลา คณปติ ยะนะมะฮา"
พระวรกายมีสีแดงที่เปล่งปลั่งเสมือนพระอาทิตย์ยามเที่ยง แสดงถึงความเป็นหนุ่มที่เต็มเปี่ยม มี 8 กร ทรงถือ บ่วงบาศ, ปฏัก, งาหัก, ขนมโมทะกะ, ผลมะขวิด, ลูกชมพู่, กิ่งข้าว, ก้านอ้อย
พรที่ให้: ประทานพรให้กับหนุ่มสาว ให้มีพลังที่จะก้าวไปข้างหน้า เติบโตแข็งแรง ประสบผลสำเร็จทั้งในชีวิตและการศึกษา
เหมาะสำหรับ: บ้านที่มีลูกอยู่ในวัยศึกษา โรงเรียน มหาวิทยาลัย รวมทั้งสถานที่ทำงานที่ต้องการความกระตือรือร้นของคนหนุ่มสาว
บทสวด: "โอม ศรี ตรุณะ คณปติ ยะนะมะฮา"
พระวรกายเป็นสีขาวเจิดจ้าดั่งพระจันทร์เต็มดวง มี 4 กร ทรงถือ มะม๋วง กล้วย มะพร้าว และถ้วยขนมหวานข้าวปาสะ (ปรุงด้วยข้าวและนมสด)
พรที่ให้: ประทานพรให้ผู้ที่นับถือถือและถวายตนเป็นสาวกขององค์พระพิฆเนศ ได้พบกับความสุขที่สมบูรณ์ของชีวิต รวมทั้งการหลุดพ้น
เหมาะสำหรับ: ผู้สูงอายุที่ต้องการเติมเต็มในจิตใจเพื่อความสุขที่แท้จริงของชีวิต
บทสวด: "โอม ศรี ภักติ คณปติ ยะนะมะ ฮา"
พระวรกายเป็นสีแดงโลหิต มี 16 กร ทรงถืออาวุธหลากชนิด คือ บ่วงบาศ กงจักร คันศร ลูกศร โล่ หอก ดาบ ตะบอง ขวาน ค้อนศึก คทา ธงชัย พญางู ตรีศูล ขอสับช้าง จอมอสูร
พรที่ให้: ประทานพรให้มีพลังอำนาจอันสูงส่ง สู้รบปรบมือกับใคร ก็จะได้รับชัยชนะเหนือผู้นั้น
เหมาะสำหรับ: ผู้ปกครอง ผู้นำ ผู้บริหาร ข้าราชการชั้นปกครอง ทหาร ตำรวจ
บทสวด: "โอม ศรี วีระ คณปติ ยะนะมะฮา”
พระวรกายเป็นสีแดงส้ม มี 4 กร ทรงถือบ่วงบาศ โกฎิ และพวงมาลัย มือข้างหนึ่งโอบพระชายาศักติในชุดสีเขียวไว้บนตักซ้าย
พรที่ให้: ประทานพรให้ผู้หญิงมีพลังอำนาจที่จะนำไปสู่ความสำเร็จและความสมหวังในชีวิต
เหมาะสำหรับ: เหมาะสำหรับผู้ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับผู้หญิง เช่น ธุรกิจเสริมความงาม
บทสวด: "โอม ศรี ศักดิ คณปติ ยะนะมะ ฮา"
พรที่ให้: ให้พลังและความสำเร็จในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ
เหมาะสำหรับ: ให้พรกับนักประดิษฐ์ที่ขอบสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อาทิ นักประดิษฐ์ นักโฆษณา นักบุกเบิก นักผจญภัย นักออกแบบ
บทสวด: "โอม ศรี ทวิชา คณปติ ยะนะมะ ฮา"
พระวรกายสีทอง มี 4 กร ทรงถือ บ่วงบาศ ขวาน ต้นอ้อย มะม่วง งวงถือขนมงาดำ
พรที่ให้: ให้พรให้พบกับความสำเร็จในชีวิต ทั้งการงาน ชีวิตครอบครัว และทรัพย์สินเงินทอง เป็นปางที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
เหมาะสำหรับ: สักการะได้ทุกสายอาชีพ
บทสวด: "โอม ศรี สิทธิ คณปติ ยะนะมะ ฮา"
พระวรกายสีฟ้าอมเทา ประทับนั่ง มี 6 กร ทรงถือ ลูกประคำ พิณ ผลทับทิม ดอกบัวสีน้ำเงิน และรวงข้าว อีกกรหนึ่งโอบพระชายาไว้บนตักซ้าย
พรที่ให้: ให้พลังแห่งความเสน่หา ให้คนรัก ชื่นชม
เหมาะสำหรับ: ผู้ทั่วไปที่ต้องการเพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวเอง หรือ นักร้อง นักแสดง
บทสวด: "โอม ศรี อุจฉิษฏะ คณปติ ยะนะมะฮา"
พระวรกายสีทอง มี 8 กร ทรงถือ กงจักร บ่วงบาศ พวงมาลัย ขวาน ดอกไม้ หอยสังข์ ต้นอ้อย ตะบอง
พรที่ให้: สามารถแก้ปัญหาและเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างราบรื่น
เหมาะสำหรับ: การบูชาทั่วไป หรือผู้ที่กำลังมีปัญหาแก้ไม่ตก
บทสวดโอม: ศรีวทินา คณปติ ยะนะมะ ฮา
พระวรกายสีแดงเปล่งปลั่ง เป็นปางประทานพรที่ถือว่ามีรูปงดงามที่สุด มี 4 กร ทรงถือตะขอสับช้าง งาหัก บ่วงบาศ และใบมะตูม งวงถือกล่องเครื่องประดับเพชร
พรที่ให้: ประทานพรให้เกิดผลอย่างรวดเร็วกว่าปางอื่นๆ ให้คุณได้สมปรารถนาในเวลาอันสั้น
เหมาะสำหรับ: การบูชาทั่วไป และต้องการผลของพรอย่างรวดเร็ว
บทสวด: "โอม ศรี กษิประ คณปติ ยะนะมะฮา"
พระวรกายสีเข้ม มี 5 พระพักตร์ ประทับบนสิงโต (แสดงถึงพลังอำนาจเหนือสรรพสิ่ง) มี10 กร พระหัตถ์ขวาประทานพร พระหัตถ์ซ้ายประทานอภัย อีก 8 กร ทรงถือ พวงมาลัย มะม่วง ลูกประคำ ขอสับช้าง งาหัก ขวาน บ่วงบาศ ขนมโมทะกะ
พรที่ให้: ให้มีพลังอำนาจบารมี สามารถปกครองบริวารได้อย่างราบรื่น
เหมาะสำหรับ: เหมาะกับนักปกครอง นักการเมือง ผู้บริหาร หัวหน้างานต่างๆ
บทสวด: "โอม ศรี เฮรัมภะคณปติ ยะนะมะ ฮา"
พระวรกายสีขาวบริสุทธิ์ มี 8กร ทรงถือ ลูกทับทิม ช่อกัลปพฤกษ์ กระบี่ ตะบอง นกแก้วสีแดง บ่วงบาศ แจกัน โอบพระนางสิทธิชายาไว้บนตักซ้าย (สื่อถึงความสำเร็จ) และพระนางพทธิชายาไว้บนตักขวา (สื่อถึงสติปัญญา)
พรที่ให้: อำนวยพรให้มีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์พูนสุข มีโชคลาภและทรัพย์สินเงินทองมากมาย
เหมาะสำหรับ: สำหรับบุคคลทั่วไป ทุกสายอาชีพ เป็นอีกปางหนึ่งที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก
บทสวด: "โอม ศรี ลักษมี คณปติ ยะนะมะฮา"
พระวรกายแดง มี 3 พระเนตร 10 กร ทรงถือ ผลทับทิม งาหัก ดอกลิลลี่สีน้ำเงิน อ้อย บ่วงบาศ กงจักร กิ่งข้าว ดอกบัว กล่องอัญมณี คฑา โอบพระนางสิทธิชายาไว้บนตัก
พรที่ให้: อำนวยพรให้มีความยิ่งใหญ่ ชื่อเสียงเงินทอง และเกียรติยศ
เหมาะสำหรับ: บุคคลทั่วไป ทุกสายอาชีพ
บทสวด: "โอม ศรี มหา คณปติ ยะนะมะฮา"
พระวรกายสีแดง มีหนูเป็นพาหนะ มี 4 กร ทรงถือ งาหัก ขอสับช้าง บ่วงบาศ และผลมะม่วงสีทอง
พรที่ให้: ให้ได้รับชัยชนะเหนือสิ่งทั้งปวง
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องมีการเข้าแข่งขันเอาชนะ เช่น ทนาย นักกีฬา ผู้ประมูลงาน
บทสวด: "โอม ศรี วิชัย คณปติ ยะนะมะฮา"
พระวรกายสีทอง ทรงกำลังร่ายรำอย่างมีความสุขอยู่ใต้ต้นมะตูม มี 4 กร ทรงถือ งาหัก ตะขอสับช้าง บ่วงบาศ และขวาน
พรที่ให้: ประทานพรประสบความสำเร็จในงานศิลปะหรืองานแสดง เพิ่มเสน่ห์ให้คนรอบข้างรู้สึกชื่นชม เป็นที่รักของคนหมู่มาก
เหมาะสำหรับ: นิยมมาในกลุ่มศิลปิน นักแสดง นักดนตรี หรือผู้ที่อยู่ในวงการบันเทิง
บทสวด: "โอม ศรี นฤตยะ คณปติ ยะนะมะฮา"
พระวรกายสีทอง มีพระนางศากติชายาประทับอยู่บนตักซ้าย มี 8 กร ทรงถืองาหัก ลูกศร ดอกบัว ดอกลิลลี่สีน้ำเงิน คันธนูที่ทำจากต้นอ้อย คบเพลิง รวงข้าว
พรที่ให้: ประทานพรให้มีการเลือนยศ เลื่อนตำแหน่ง
เหมาะสำหรับ: ข้าราชการ หรือพนักงานบริษัท
บทสวด: "โอม ศรี อุทวะ คณปติ ยะนะมะฮา"
พระวรกายและเครื่องทรงสีแดง มี 3 พระเนตร มีพระจันทร์เสี้ยวอยู่เหนือมงกุฎ(แทนเครื่องหมายแห่งศิวะเทพ) นั่งขัดสมาธิบนหนูที่เป็นพาหนะ มี 4 กร กรหนึ่งประทานพร ที่เหลือทรงถือ ผลทับทิม บวงบาศ และปฎัก
พรที่ให้: ประทานพรสูงสุดเพื่อให้สิริมงคลในชีวิต
เหมาะสำหรับ: บุคคลทั่วไป ทุกสายอาชีพ
บทสวด: "โอม ศรี เอกา อักษรา คณปติ ยะนะมะฮา"
พระวรกายสีชมพู 3 เนตร (มีดวงตาที่สามกลางหน้าผาก สื่อถึงความมีสติปัญญา) มี4 กร ทรงถือปฏัก บ่วงบาศ ถ้วยน้ำผึ้ง โอบพระชายาศากติบนตักด้านซ้าย งวงถือกล่องเครื่องประดับ
พรที่ให้: ปุระทานพรให้สมหวังในความรัก รวมทั้งเหมาะกับธุรกิจที่เกี่ยวกับความรัก
เหมาะสำหรับ: คู่รัก คนโสด หรือธุรกิจที่เกี่ยวกับความรัก เช่น ร้านเสื้อผ้าชุดเจ้าสาว หรืออื่นๆ
บทสวด: "โอม ศรี วะระ คณปติ ยะนะมะฮา"
พระวรกายสีทอง พระกรรณ(หู)กระพือเล็กน้อย มี 4 กร ทรงถือบ่วงบาศ งาหัก มะม่วง และปฏัก มีขนมโมทกะอยู่ที่งวง
พรที่ให้: ให้คลาดแคล้วจาก อาถรรพ์ มนต์ดำ และคุณไสยทั้งปวง รวมทั้งเพิ่มพลังอำนาจแห่งจิตให้กับผู้ที่ร่ำเรียนด้านอักษรศาสตร์ พระเวท หรือโหราศาสตร์
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ถูกมนต์ดำ หรือผู้ที่ร่ำเรียนด้านอักษรศาสตร์ พระเวท หรือโหราศาสตร์
บทสวด: "โอม ศรี ตรีอักษรา คณปติ ยะนะมะฮา"
พระวรกายสีแดง มีพระอุทร(ท้อง)ที่ค่อนข้างใหญ่ (สื่อถึงจักรวาลอันยิ่งใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์) มี 6 กร ทรงถืองาหัก, ขอสับช้าง, ดอกบัว, บ่วงบาศก์, ผลทับทิม และกิ่งทับทิม
พรที่ให้: ประทานพรแห่งความสำเร็จและสมหวังเป็นรางวัลแก่สาวกที่บูชาพระองค์
พระวรกายสีเหลืองทองเหมือนขมิ้น มี 3 เนตร 4 กร ทรงถือ งาหัก บ่วงบาศก์ ปฎักแหลม และขนมโมทะกะ
พรที่ให้: ประทานพรแห่งความสำเร็จ ร่ำรวย มีเสน่ห์เป็นที่ดึงดูดต่อคนรอบข้าง
เหมาะสำหรับ: เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอาชีพนักร้อง นักแสดง พิธีกร
บทสวด: "โอม ศรี หริทรา คณปติ ยะนะมะฮา"
พระวรกายสีฟ้า พระอุทร(ท้อง)มีขนาดใหญ่ มี 4 กร ทรงถือ ลูกประคำ ขวาน งาหัก และขนมลาดู
พรที่ให้: ประทานพรให้สำเร็จในทุกสิ่ง รวมทั้งเอาชนะอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวง
เหมาะสำหรับ: บุคคลทั่วไป ทุกสายอาชีพ
บทสวด: "โอม ศรี เอกทันตะ ปะระสัท คณปติ ยะนะมะฮา"
พระวรกายสีแดง นั่งอยู่บนหนูที่เป็นพาหนะ มี 4 กร ทรงถือบ่วงบาศก์ ขอปักช้าง งาหัก และมะม่วง
พรที่ให้: ประทานพรให้มีพลังในการคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ
เหมาะสำหรับ: ผู้ทีต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่น นักโฆษณา นักออกแบบ นักประดิษฐ์ นักคิด นักเชียนเป็นต้น
บทสวด: "โอม ศรี สะริสติ ปะระสัท คณปติ ยะนะมะฮา"
พระวรกายสีแดง ดูน่าเกรงขาม มี 10 กร ทรงถือกล่องเครื่องประดับ ดอกลิลลี่สีน้ำเงิน ก้านอ้อย คทา ดอกบัว ต้นข้าว ผลทับทิม บ่วงบาศ พวงดอกไม้ และงาหัก โอบพระศักติชายาไว้บนตักซ้าย
พรที่ให้: ประทานพรให้สามารถเอาชนะอาถรรพ์ คุณไสย หรือภูติผี
เหมาะสำหรับ: บุคคลทั่วไป
บทสวด: "โอม ศรี อุททันตะ คณปติ ยะนะมะฮา"
พระวรกายมีสีขาวคล้ายผ้าไหม มี 4 กร ทรงถือ บ่วง ปฎัก งาหัก และขนมโมทกะ
พรที่ให้: ประทานพรให้มีชิวิตใหม่ ช่วยขจัดปัดเป่าปัญหาต่างๆ
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีปัญหาผูกพันตัว หรือผู้ที่มีหนี้สิน
บทสวด: โอม ศรีโอมจัน คณปติ ยะนะมะฮา
พระวรกายเป็นสีแดง มี 4 กร ทรงถือ งาหัก ลูกประคำ ขวาน และโถอัญมณี
พรที่ให้: ประทานพรให้มีสติปัญญาเป็นเลิศในทุกๆด้าน
เหมาะสำหรับ: เหมาะกับ นักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่ต้องใช้ความคิดริเริ่มใหม่ๆในการทำงาน
บทสวด: โอม ศรี ตรันทริ คณปติ ยะนะมะฮา
พระวรกายสีเขียวอมน้ำเงิน มี 2 เศียร สวมมงกุฏเพชร หันหน้าตรงกันข้ามกัน ทรงถือบ่วงบาศ ปฏัก งาหัก และโถอัญมณี
พรที่ให้: ประทานพรให้สำเร็จในการประสานงาน หรือเจรจา ต่างๆ
เหมาะสำหรับ: เหมากับผู้ที่ทำงานด้านประชาสัมพันธ์ หรือผู้ที่ต้องมีการติดต่อสัมพันธ์กับคนหมู่มาก
บทสวด: โอม ศรี ทวิมุข คณปติ ยะนะมะฮา
พระวรกายสีแดงสด มี 3 เศียร 6 กร พระหัตถ์ขวาประทานอภัย พระหัตถ์ซ้ายประทานพร กรอื่นๆทรงถือ บ่วงบาศ ปฎัก ลูกประคำ และโถน้ำผึ้ง
พรที่ให้: เป็นปางมหามงคล ประทานพรให้ได้รับความสำเร็จทั้งปวง มีอำนาจ บริวาร รวมทั้งทรัพย์สินเงินทอง
เหมาะสำหรับ: สำหรับทุกคน
บทสวด: โอม ศรี ตรีมุข คณปติ ยะนะมะฮา
พระวรกายสีขาวบริสุทธิ์ มี 8 กร พระหัตถ์ขวา พระหัตถ์ซ้ายอำนวยพร พระหัตถ์อื่นทรงถือ ช่อดอกไม้ ดอกบัว พิณ โถอัญมณี และใบมะตูม ประทับบนสิงโต
พรที่ให้: ประทานพรให้มีอำนาจบารมีในการปกครองบริวาร
เหมาะสำหรับ: ทหาร ตำรวจ ข้าราชการชั้นปกครองหรือบริหาร หัวหน้างานทุกระดับ
บทสวด: โอม ศรี สิงหะ คณปติ ยะนะมะฮา
พระวรกายเป็นสีทอง มี 4 กร ทรงถือ ต้นอ้อย บ่วงบาศ ลูกประคำ และขอสับช้าง
พรที่ให้: ประทานพรให้มีความสงบ สมาธิ
เหมาะสำหรับ: การตั้งไว้ในห้องพระ ให้ความสงบ เหมาะกับผู้ที่ชอบนั่งกรรมฐาน
บทสวด: โอม ศรี โยคะ คณปติ ยะนะมะฮา
พระวรกายเป็นสีทอง มี 8 กร ทรงถืองาหัก คันศร ลูกศร ตะบอง บ่วงบาศ ธงชัย ลูกประคำ และขนมโมทกะ
พรที่ให้: ประทานพรให้มีอำนาจบารมี สามารถปกครองผู้คนหมู่มาก
เหมาะสำหรับ: ทหาร ตำรวจ ข้าราชการชั้นปกครองหรือบริหาร หัวหน้างานทุกระดับ
บทสวด: โอม ศรี ทุรคา คณปติ ยะนะมะฮา
พระวรกายเป็นสีแดงส้ม มี 4 กร ประทับบนดอกบัวสีแดง พระหัตถ์ขวาอำนวยพร พระหัตถ์ซ้ายอบพระชายาไว้บนตักซ้าย พระกรอื่นทรงถือ ตะบอง บ่วงบาศ และชามขนม
พรที่ให้: ประทานพรให้ประสบความสำเร็จ เอาชนะอุปสรรคทั้งปวง
เหมาะสำหรับ: การบูชาทั่วไป เพื่อเป็นสิริมงคลและความสำเร็จ
บทสวด: โอม ศรี สักะตะหะระ ยะนะมะฮา
องค์พระพิฆเนศในปางต่างๆกัน ท่านอาจจะได้พบเห็นสัญลักษณ์ต่างๆ หรือสิ่งของที่แตกต่างกันในพระหัตถ์ของพระองค์ ซึ่งสัญลักษณ์แต่ละอย่างนั้น จะให้ความหมายที่แตกต่างกันดังนี้...
สายฟ้า เป็นอีกอาวุธที่ทรงฤทธานุภาพสูงสุดของพระองค์ เป็นพลังอำนาจเหนือสามโลก ช่วยอำนวยอวยชัยด้านอำนาจและบารมี
ปฎัก(หรือตะบอง) เป็นอาวุธชิ้นหนึ่งของพระองค์ ช่วยให้ความกระวนกระวายหรือรุ่มร้อนในใจสงบลง มีสติ และสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างมั่นคง
ขวานเป็นอาวุธประจำกายของพระองค์ที่พบค่อนข้างบ่อย ใช้ทำลายอุปสรรคขวากหนามต่างๆ รวมทั้งกำจัดศัตรูที่ชั่วร้าย
สำหรับผู้ที่ศรัทธาพระองค์ที่กำลังสับสนในชีวิต เดินทางกันอย่างไร้จุดหมายหรือสะเปะสะปะ พระองค์จะใช้บ่วงบาศก์คล้องผู้นั้นแล้วนำทางสู่ทางที่ถูกต้องหรือหนทางแห่งความสำเร็จ
สายฟ้า เป็นอีกอาวุธที่ทรงฤทธานุภาพสูงสุดของพระองค์ เป็นพลังอำนาจเหนือสามโลก ช่วยอำนวยอวยชัยด้านอำนาจและบารมี
จักรตรา เป็นอาวุธขององค์พระพิฆเนศที่เป็นสัญลักษณ์ของทั้งพระอาทิตย์และดวงจันทร์ในหนึ่งเดียว เปรียบเสมือนศาสตราวุธแห่งองค์วิษณุ ช่วยป้องกันภัยอันตราย และทำลายล้างความชั่วร้ายหรือสิ่งอัปมงคลทั้งปวง
ขนมโมทากะ เป็นขนมหวานที่พระองค์ทรงโปรดปรานเป็นอย่างมาก แม้จำทำให้ฟันของพระองค์ผุ ให้ความหมายถึงการหลุดพ้น
คฑา เป็นอาวุธที่แสดงพลังความแข็งแกร่งของพระองค์ ช่วยอำนวยให้พรแก่ผู้ที่บูชาพระองค์สามารถเอาชนะปัญหาและอุปสรรคต่างๆทั้งมวญ อย่างกล้าหาญและไม่ท้อถอย จนสำเร็จเสร็จสิ้นเป็นผลสำเร็จ ไม่หยุดหรือเลิกไปกลางคัน
ชีวิตบางครั้งมีขึ้นมีลง จนหลายครั้งเกิดความท้อใจ กริชที่คมกริบจองพระองค์ จะช่วยจะกรีดทางเดินให้ผู้ที่บูชาพระองค์สามารถเอาชนะปัญหาและอุปสรรคต่างๆได้ แล้วกลับสู่หนทางที่ควรจะเป็น
ยามใดที่พระพิฆเนศได้เข้าเฝ้าพระศิวะ องค์พระบิดาี่ซึ่งเป็นมหาเทพสูงสุด พระองค์มักจะถือสร้อยปะคำไว้ในมือ เพื่อรอโองการหรือคำสั่งใดๆ ให้ความหมายถึงการสวดมนต์ต่อองค์มหาเทพรวมทั้งการเจริญสมาธิภาวนา
พระองค์จะยิงศรดอกไม้ออกไป เพื่อนำทางผู้ที่ศรัทธาสู่หนทางแห่งความสำเร็จ อีกทั้งยังให้ความหมายถึงการสมหวังในความรัก คล้ายกับศรของของกามเทพ
เมื่อพระองค์ได้สรงน้ำ น้ำที่ไหลผ่านพระวรกายจะไหลสู่มุลธารจักรา ช่วยชำระล้างสิ่งอัปมงคลและสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง
พระองค์ปรารถนาให้ผู้ที่ศรัทธาในพระองค์เติบโตเสมือนดอกบัวผุดขึ้นเหนือโคลนตม เหมือนหลุดจากความมืดสู่แสงสว่างแห่งปัญญา (คล้่ายกับในศาสนาพุทธ)
คันศรจากต้นอ้อย จะช่วยนำพาสติปัญญาสู่ผู้ศรัทธา
ลูกศรแห่งปัญญา ช่วยนำพาผู้ที่ศรัทธาตั้งใจดำเนินชิวิตไปสู่จุดหมายอย่างมีสติ
พิณ หรือเครื่องสายขชองอินเีดีย บรรเลงเพลงที่ไพเราะและงดงาม ดลบันดาลให้ประสบความสำเร็จในศิลปทุกแขนง นอกจากนี้ยังหมายถึงชื่อเสียงเกียรติยศอันขจรไกล
พระองค์ทรงอยู่เหนือจอมอสูร ภูติผีปีศาจ และสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง เปรียบเสมือนช่วยให้ผู้ศรัทธาหลุดพ้นจากความกลัวทั้งหลายทั้งปวง
คฑา เป็นสัญลักษณ์แห่งธรรมอำนาจ ช่วยควบคุมให้ผู้คนปฏิบัติและประพฤติตัวดี อยู่ในศีลในธรรม
พระองค์จะโบกพัด เพื่อขจัดปัดเป่าอุปสรรคและภัยร้ายให้มลายหายไป เพื่อความเจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป
เหยือกน้ำ คือสัญลักษณ์แห่งการเติมเต็ม ช่วยให้ผู้ที่ศรัทาได้รับการเติมเต็มในสิ่งที่ปรารถนา
ด้วยความเมตตาของพระองค์ พระองค์จะยิงศรไปทำลายปัญหาและอุปสรรคต่างๆที่ผู้ศรัทธากำลังเผชิญ ทำให้ทุกข์ร้อนหมดสิ้นไป
แม้งูจะเป็นสัตว์ที่น่ากลัว แต่ก็เป็นเพียงสัตว์เลี้ยงของพระองค์ที่ร้อยรัดอยู่ที่พระวรกาย เป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจที่คอยปกปักป้องกันผู้่ศรัทธาจากความชั่วร้ายทั้งปวง
ข้าวคือสิ่งที่หล่อเลี้ยงมนุษย์มาแต่ครั้งบรรพกาล รวงข้าวที่พระองค์ถืออยู่ จึงเป็นการอำนวยพรให้การเกิดความสุขและความอุดมสมบูรณ์
ค้อน เป็นพลังอำนาจแห่งการสร้างสรรค์ที่ทรงได้รับจากพระวิษณุ ช่วยสร้างสร้างสรรค์สรรพสิ่งที่ดีงามต่อโลกมนุษย์
พระองค์เป็นผู้ทรงมีสติัปัญญาเหนือสามโลก ทรงเขียนคัมภีร์ให้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิตของมนุษย์ให้ดำเนินไปในทางที่ถูกต้อง
พระองค์ัมักจะประทานกิ่งไม้แห่งความสมหวังให้ผู้ที่ศรัทธา เพื่ออำนวยพรให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา
ขวานศึก แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์ที่ใช้ในการต่อสู้ในสงครามใดๆ บันดาลให้เกิดชัยชนะเหนือศัตรูทั้งปวง
ขวานใหญ่ แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์ที่ใช้ในการปราบอสูรและปกป้องคุ้มครองทั้งสามโลก ช่วยอำนวยพรให้ผู้ศรัทธาได้รับพลังที่ยิ่งใหญ่ที่จะเอาชนะอุปสรรคปัญหาทั้งมวญ
ตรีศูล แสดงถึงอำนาจที่ยิ่งใหญ่เหนือทั้งสามโลก อำนวยพรให้มีอำนาจและบารมีเหนือผู้ใด
มะพร้าวเป็นสัญลักษณ์ของอัตตา เหมือนกับเปลือกที่แข้งแต่ข้างในนุ่มนวลหอมหวาน พระองค์ชี้นำให้ผู้คนรู้จักลดอัตตาของตัวเองลงบ้าง อย่ายึดมั่นในตัวตนของตนเองมากเกินไป
ธงชัยเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ โบกสะบัดอย่างสง่างามยามต้องลม แสดงถึงความสุขที่สมปรารถนา
มีตำนานโบราณหนึ่งที่กล่าวว่า เมื่อพระฤาษีวยาสแต่่งคัมภีร์มหาภารตะ เขียนลื่นไหลจนหาคนเขียนไม่ทัน พระพิฆเนศทรงอาสาและเสียสละงาข้างหนึ่งของพระองค์แล้วนำไปเขียนคัมภีร์เล่นนี้จนเสร็จ เป็นการย้ำเตือนให้มนุษย์รู้จักมีมานะอดทน ทำการใดๆแล้ว ต้องตั้งใจทำจนสำเร็จ
ขอสับช้างเป็นเครื่องมือที่ใ้ช้ควบคุมกิเลสของมนุษย์ ให้ดำเนินชีวิตไปในทิศทางที่ถูกที่ควร รวมทั้งเป็นอาวุธช่วยขจัดอุปสรรคขวากหนามอีกด้วย
ไฟ ช่วยชำระล้างบาบหรือสิ่งอัปมงคลออกจากตัวเรา ทำให้ร่างกายและจิตใจของเราบริสุทธิ์
พระองค์จะแกว่งดาบ เพื่อทำให้ศัตรูกลัว และได้มาซึ่งชัยชนะและความสำเร็จในที่สุด
พระองค์ทรงโปรดปรานผลไม้นานาชนิดเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังประทานให้กับผู้คนทั้งเด็กและผู้ใหญ่เพื่อความแข็งแรงและมีสุขภาพที่ีดี รวมถึงอำนวยพรให้เกิดความอุดมสมบูรณ์
หัวไชเท้าเป็นผักพื้นบ้านที่ปลูกง่ายๆ พระองค์ทรงเน้นถึงการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและพอเพียง
พระองค์ทรงใช้โล่เพื่อป้องกันและปกป้องรักษาผู้ที่ศรัทธาในพระองค์ นำมาแต่ความสงบสุขแห่งชีวิต
มะม่วงเป็นผลไม้ที่พระองค์ได้รับจากพระบิดา องค์มหาเทพศิวะ หลังจากที่ได้บรรลุโมกษะ (การหลุดพ้น) มะม่วงจึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จเมื่อบรรลุถึงจุดหมาย
พระพิฆเนศในบางปรางจะมีตาที่สามอยู่บนพระนลาฏ แสดงถึงความสามารถแห่งจิตวิญญาณในการมองความจริงได้ลึกซึ้งกว่าธรรมดา
อัญมณีแต่ละชนิด มีสีสันที่แตกต่างกัน เสมือนจิตวิญญาณที่แตกต่างกันของมนุษย์แต่ละบุคคล
ข้าวเป็นอาหารพื้นฐานที่เลี้ยงดูผู้คนทั่วโลก พระองค์จะ่ช่วยดลบันดาลให้พืชผลออกดอกผลงดงามและอุดมสมบูรณ์
พระองค์ทรงโปรดของหวานทุกชนิด โดยเฉพาะน้ำหวานจากอ้อย พระองค์จะทรงโปรดปรานเป็นพิเศษ อำนวยพรให้ชีวิตสดชื่นและมีความสุขสันต์
พระองค์จะทรงแย้มพระสรวลเล็กๆเสมอเมื่อได้ลิ้มรสความหวานของน้ำผึ้ง พระองค์มักประทานให้ผู้ที่ศรัทธาเป็นรางวัลเพื่อตอบแทนความอุตสาหะพยายามของบุคคลผู้ซึ่งไม่ย่อท้อต่อความลำบากยากเข็นใดๆในชีวิต
กล้วยเป็นอีกผลไม้หนึ่งที่พระองค์ทรงโปรดปรานเป็นอย่่างมาก พระองค์มักจะถือมันไว้แล้วทอดพระเนตรถึงความอุดมของมัน และปรารถนาให้ผู้ที่ศรัทธาพระองค์ได้รับความหอมหวานจากกล้วยนั้นเช่นกัน
ยามใดที่พระองค์ต้องการนั่งสมาุิธิ พระองค์มักจะพักแขนไว้บนไม้เท้าสั้นๆ สิ่งนี้จะช่วยให้พระองค์สามารถผ่อนคลายและเข้าสู่การนั่งสมาธิที่ล้ำลึกได้ง่ายขึ้น
พระองค์ทรงเห็นความสำคัญของสิ่งมีชิีวิตเล็กๆทีมีต่อโลก พระองค์จะทรงปกป้องสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น กอหญ้า ดอกไม้ หรือพืชพันธุ์ใดๆ ให้อยู่กันอย่างร่มเย็นและสันติสุข
พระองค์ทรงสอนไม่ให้ดูถูกหรือมองข้ามสิ่งเล็กๆน้อย งาดำแม้จะมีขนาดเล็กๆ แต่เมื่อนำมารวมกัน ก็สามารถสร้างสรรค์เป็นขนมอร่อยๆได้เหมือนกัน
สายฟ้า เป็นอีกอาวุธที่ทรงฤทธานุภาพสูงสุดของพระองค์ เป็นพลังอำนาจเหนือสามโลก ช่วยอำนวยอวยชัยด้านอำนาจและบารมี
พระองค์พร้อมที่จะแบ่งปันสับปะรดให้กับผู้ที่ศรัทธา รวมทั้งอำนวยพรให้ทุกคนมีสติปัญญาความรู้เสมือนดวงตานับพันของสับปะรด
สายฟ้า เป็นอีกอาวุธที่ทรงฤทธานุภาพสูงสุดของพระองค์ เป็นพลังอำนาจเหนือสามโลก ช่วยอำนวยอวยชัยด้านอำนาจและบารมี
พระองค์ทรงมีพระนาภีอันอวบอ้วน เชื่อกันว่าทุกจักรวาลอยู่ในพระนาภีของพระองค์ แสดงถึงความอุดมสมบุรณ์ของโลกา
พระองค์ทรงเป็นผู้ปกปักรักษาทั้งสามโลก สัญลักษณ์ที่โค้งงอเหมือนพระกรของพระองค์ แสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ดูแลทั่วทั้ง 4 ทิศ
พระองค์ทรงโปรดปรานการดื่มน้ำจากผลมะนาว เชื่อว่าผลไม้ชนิดนี้เป็นตัวแทนของความสดชื่นของชีวิต
โอม เป็นเสียงต่ำ และถือเป็นปฐมบทของศูนย์กลางแห่งมนตราของจักรวาล
งวงช้างที่มีขนาดใหญ่และดูทรงอำนาจ แทนความรักของพระองค์ ที่จะมอบพรให้กับผู้ศรัทธา
พระองค์มักจะประทับนั่งริมสระน้ำที่เต็มไปด้วยดอกลิลลีสิฟ้า เพื่อเฝ้าดูความเป็นไปของจักรวาล และทั้งสามโลก
พระองค์ทรงโปรดขนุน โดยเฉพาะความเหนียวและความหอมหวานของเนื้อขนุน นอกจากนี้ยังเปรียบถึงความเหนียวแน่นกลมเกลียวัน
บางครั้งพระองค์ทรงนั่งที่ซุ้มประตูแห่งเข้าไกรลาศ เพื่อปกปักคุ้มครองรักษา รวมทั้งปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายไม่ให้สามารถกร้ำกรายเข้าไปยังภายในประตูได้
ทับทิมแดง เป็นผลไม้ที่พระองค์โปรดปรานมาก ให้ความหมายถึง ความร่ำรวยและอุดมสมบูรณ์
เรามักจะมองเห็นงูัตัวเล็กๆ พันเป็นสร้อยสังวาลย์อยู่รอบพระวรกายขององค์พระพิฆเนศ แสดงถึงความสง่างามขององค์เทพ รวมทั้งคอยปกป้องพิทักษ์รักษาไม่ให้ภัยอันตรายใดๆกร้ำกรายเข้ามา
ผลมะขวิดเป็นอีกผลไม้หนึ่งที่เป็นที่โปรดปรานของพระองค์ นับว่าเป็นสมุนไพรโบราณชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในสมัยโบราณ เป็นสัญลักษณ์ของการมีสุขภาพที่ดี
พระพิฆเนศไม่เคยปฎิเสธชนมลาดูเลย ลาดูเป็นขนมที่หอมหวาน ทำมาจากแป้ง น้ำนม และน้ำตาล มักจะเืืตือนผุ้คนให้รำลึกถึงครั้งที่วัยเยาว์ (วัยที่ชอบกินขนมหวาน)
พระเศียรแห่งองค์พระพิฆเนศ มิใช่ได้มาจากช้างธรรมดา แต่เป็นเศียรหนึ่งของช้างเอราวัณอันทรงฤทธา ที่ถูกสาบให้มาเกิดบนโลกมนุษย์ มีสัญลักษณ์รูปตรีศูลอยู่บนพระนลาฏ
สัญลักษณ์รูปพระจันทร์เสี้ยวที่มีอยู่บนหน้าผากของพระองค์ เหมือนพระบิดามหาเทพศิวะ หมายถึงฤกษ์งามยามดี และพลังอำนาของจิตใจ
พระองค์เป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งในด้านมนตราและพระเวทย์ ได้รับพรอันศักดิ์สิทธิ์ให้ได้รับการบูชาเป็นลำดับแรกในการกระทำพิธีกรรมใดๆก็ตามในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
สร้อยสังวาลย์ที่พระองค์ทรงสวมใส่ไขว้กันอยู่นั้น อยู่บนทั้งไหล่ขวาและซ้ายเสมอกัน ย้ำเตือนว่าสรรพสิ่งไม่มีอะไรสูงต่ำ ทุกสิ่งล้วนคือสมดุลแห่งธรรมชาติ
พระองค์เป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งในด้านมนตราและพระเวทย์ ได้รับพรอันศักดิ์สิทธิ์ให้ได้รับการบูชาเป็นลำดับแรกในการกระทำพิธีกรรมใดๆก็ตามในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
พระองค์เป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งในด้านมนตราและพระเวทย์ ได้รับพรอันศักดิ์สิทธิ์ให้ได้รับการบูชาเป็นลำดับแรกในการกระทำพิธีกรรมใดๆก็ตามในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
พระองค์มีพระชายาอยู่สองพระองค์ สะท้อนให้เห็นถึงครอบครัวที่อยู่ร่วมกันอย่างผาสุข มีความสามัคคีปรองดอง
สัญลักษณ์ของคชสารบนกลีบดอกไม้ แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของชีวิต ดุจดั่งใบไ้ม้ที่ผลิบาน
พระองค์ทรงประทานพืชพันธุ์ไม้นานาชนิดให้สู่มวลมนุษย์ เป็นทั้งอาหารและยารักษาโรค
"ข้าพเจ้าชื่อ...... ขอน้อมอัญเชิญองค์พระพิฆเนศ เสด็จมารับเครื่องสังเวย อันข้าพเจ้าเป็นผู้จัดมาถวาย ณ สถานที่บูชาแห่งนี้ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองแก่ข้าพเจ้าและครอบครัวด้วยเทอญ"ขอให้ทุกท่าน มีความสุข ความเจริญ สมปรารถนาทุกประการเทอญ"
มีอีกวิธีหนึ่งที่เป็นที่นิยมค่อนข้างแพร่หลาย คือการเลือกตามปางขององค์พระพิฆเนศ 32 ปาง ปางใดปางหนึ่ง(หรือมากกว่าเดียวก็ได้) ที่มีความหมายค่อนข้างตรงกับความปรารถนาหรือสายอาชีพของผู้สักการะ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่หน้า "พระพิฆเนศ 32 ปาง")
ข้อสำคัญ: จะเป็นเนื้อทองเหลือง เนื้อหิน เนื้อเรซิ่น อะไรก็ได้ แต่ต้องไม่ได้ทำมาจากส่วนใดส่วนหนึ่งของสัตว์ (เช่น งาช้าง)
หน้าแรก / เลือกซื้อภาพวอลเปอร์ / ตำนานเทพและวิธีบูชา / วิธีชำระเงินค่าวอลเปเปอร์ / ติดต่อเรา
โดย... บจก. คอสติค อินเตอร์เนชั่นแนล
461/1-3 ซ.แก้วฟ้า ถ.สี่พระยา แขวงมหาพฤฒาราม เขต บางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
Line ID: @moo999